ຄົ້ນຄວ້າໂດຍ: ພອຄ.ເນືອງພິລັກ ໂຊຕິທອນ
8/8/16
--------
ອ່ານເນື້ອໃນ ຫຼັກຖານ ການຄົ້ນພົບອົກສອນລາວ(ໄທຍ໌ວ່າໄທຍ໌ນ້ອຍ) ແລະຄຳເຫັນຂອງນັກວິຊາການຝ່າຍໄທຍ໌
--------
จารึก จารึกพระธาตุร้างบ้านแร่
ชื่อจารึกแบบอื่นๆ -
อักษรที่มีในจารึก ไทยน้อย
ศักราช พุทธศักราช ๑๘๙๓
ภาษา ไทย
ด้าน/บรรทัด จำนวนด้าน ๑ ด้าน มี ๑๒ บรรทัด
ลักษณะวัตถุ รูปใบเสมา
ขนาดวัตถุ กว้าง ๔๒ ซม. สูง ๗๙ ซม.
บัญชี/ทะเบียนวัตถุ ๑) กองหอสมุดแห่งชาติ กำหนดเป็น “สน. ๔”
๒) ในหนังสือ ศิลาจารึกอีสานสมัยไทย-ลาว กำหนดเป็น “จารึกพระธาตุร้างบ้านแร่”
ปีที่พบจารึก ไม่ปรากฏหลักฐาน
สถานที่พบ สถานีอนามัยบ้านแร่ (วัดธาตุศรีบุญเรือง) ตำบลแร่ อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
ผู้พบ อาจารย์สุรัตน์ วรางรัตน์ และคณะนักศึกษา จากวิทยาลัยครูสกลนคร
ปัจจุบันอยู่ที่ สถานีอนามัยบ้านแร่ (วัดธาตุศรีบุญเรือง) ตำบลแร่ อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
พิมพ์เผยแพร่ ศิลาจารึกอีสานสมัยไทย-ลาว (กรุงเทพฯ : คุณพินอักษรกิจ, ๒๕๓๐), ๒๒๕-๒๒๗.
ประวัติ ศิลาจารึกหลักนี้เพิ่งค้นพบเมื่อ อาจารย์สุรัตน์ วรางรัตน์ แห่งวิทยาลัยครูสกลนคร พานักศึกษาไปศึกษานอกสถานที่ ภายหลังได้พาอาจารย์ธวัช ปุณโณทก ไปศึกษาเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๒๗ พบเฉพาะท่อนบนและท่อนล่าง เดือนสิงหาคม ๒๕๒๗ อาจารย์ธวัช ปุณโณทก ได้นำภาพนิ่งจารึกหลักนี้มาเสนอในที่ประชุมนานาชาติเรื่อง ไทยศึกษา ที่กรุงเทพฯ ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร ได้แสดงความเห็นและให้ความสนใจแก่จารึกหลักนี้มาก อาจารย์ธวัช ปุณโณทก จึงได้ให้นักศึกษาผู้ช่วยวิจัยไปค้นหาส่วนของจารึกที่ยังหลงเหลืออีกครั้งหนึ่ง และพบส่วนที่ขาดไปได้ครบสมบูรณ์
เนื้อหาโดยสังเขป ข้อความจารึกกล่าวถึงการอุทิศที่ดินให้แก่วัดของเจ้านายระดับพระยา และแสน ซึ่งเป็นหัวหน้าชุมชนในละแวกนั้น
ผู้สร้าง ไม่ปรากฏหลักฐาน
การกำหนดอายุ ข้อความจารึกบรรทัดที่ ๔ ระบุ จ.ศ. ๗๑๒ คือ พ.ศ. ๑๘๙๓ ตรงกับปีที่พระเจ้าอู่ทองทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา และก่อนพระเจ้าฟ้างุ้มครองเมืองหลวงพระบาง (พ.ศ. ๑๘๙๖) ถึง ๓ ปี ถ้าศักราชที่ปรากฏในจารึกนี้ถูกต้อง จารึกหลักนี้จะเป็นจารึกอักษรไทยน้อยที่มีอายุเก่าที่สุดที่พบขณะนี้ และเป็นรูปแบบตัวอักษรไทยน้อยที่ได้พัฒนาไปแล้ว คือมีรูปแบบเฉพาะตัวห่างจากอักษรไทยสุโขทัยสมัยพระเจ้าลิไท ที่ร่วมสมัยเดียวกัน จากการศึกษารูปแบบของตัวอักษรในศิลาจารึกพระธาตุร้างบ้านแร่นี้ น่าจะต้องทบทวนทฤษฎีที่ว่าอักษรไทยน้อยได้แบบอย่างไปจากตัวอักษรไทยสกุลพ่อขุนรามคำแหง ถ้าปรากฏหลักฐานอื่นๆ สนับสนุนอีกส่วนหนึ่ง
ข้อมูลอ้างอิง เรียบเรียงข้อมูลโดย : นวพรรณ ภัทรมูล, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., ๒๕๔๙, จาก :
ธวัช ปุณโณทก, “จารึกพระธาตุร้างบ้านแร่,” ใน ศิลาจารึกอีสานสมัยไทย-ลาว : ศึกษาทางด้านอักขรวิทยาและประวัติศาสตร์อีสาน (กรุงเทพฯ : คุณพินอักษรกิจ, ๒๕๓๐), ๒๒๕-๒๒๗.
ภาพประกอบ ภาพสำเนาจารึกจาก : ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๔๕ (เลขทะเบียน CD; INS-TH-14, ไฟล์; Sn_0400_c)
--------------------
8/8/16
--------
ອ່ານເນື້ອໃນ ຫຼັກຖານ ການຄົ້ນພົບອົກສອນລາວ(ໄທຍ໌ວ່າໄທຍ໌ນ້ອຍ) ແລະຄຳເຫັນຂອງນັກວິຊາການຝ່າຍໄທຍ໌
--------
จารึก จารึกพระธาตุร้างบ้านแร่
ชื่อจารึกแบบอื่นๆ -
อักษรที่มีในจารึก ไทยน้อย
ศักราช พุทธศักราช ๑๘๙๓
ภาษา ไทย
ด้าน/บรรทัด จำนวนด้าน ๑ ด้าน มี ๑๒ บรรทัด
ลักษณะวัตถุ รูปใบเสมา
ขนาดวัตถุ กว้าง ๔๒ ซม. สูง ๗๙ ซม.
บัญชี/ทะเบียนวัตถุ ๑) กองหอสมุดแห่งชาติ กำหนดเป็น “สน. ๔”
๒) ในหนังสือ ศิลาจารึกอีสานสมัยไทย-ลาว กำหนดเป็น “จารึกพระธาตุร้างบ้านแร่”
ปีที่พบจารึก ไม่ปรากฏหลักฐาน
สถานที่พบ สถานีอนามัยบ้านแร่ (วัดธาตุศรีบุญเรือง) ตำบลแร่ อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
ผู้พบ อาจารย์สุรัตน์ วรางรัตน์ และคณะนักศึกษา จากวิทยาลัยครูสกลนคร
ปัจจุบันอยู่ที่ สถานีอนามัยบ้านแร่ (วัดธาตุศรีบุญเรือง) ตำบลแร่ อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
พิมพ์เผยแพร่ ศิลาจารึกอีสานสมัยไทย-ลาว (กรุงเทพฯ : คุณพินอักษรกิจ, ๒๕๓๐), ๒๒๕-๒๒๗.
ประวัติ ศิลาจารึกหลักนี้เพิ่งค้นพบเมื่อ อาจารย์สุรัตน์ วรางรัตน์ แห่งวิทยาลัยครูสกลนคร พานักศึกษาไปศึกษานอกสถานที่ ภายหลังได้พาอาจารย์ธวัช ปุณโณทก ไปศึกษาเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๒๗ พบเฉพาะท่อนบนและท่อนล่าง เดือนสิงหาคม ๒๕๒๗ อาจารย์ธวัช ปุณโณทก ได้นำภาพนิ่งจารึกหลักนี้มาเสนอในที่ประชุมนานาชาติเรื่อง ไทยศึกษา ที่กรุงเทพฯ ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร ได้แสดงความเห็นและให้ความสนใจแก่จารึกหลักนี้มาก อาจารย์ธวัช ปุณโณทก จึงได้ให้นักศึกษาผู้ช่วยวิจัยไปค้นหาส่วนของจารึกที่ยังหลงเหลืออีกครั้งหนึ่ง และพบส่วนที่ขาดไปได้ครบสมบูรณ์
เนื้อหาโดยสังเขป ข้อความจารึกกล่าวถึงการอุทิศที่ดินให้แก่วัดของเจ้านายระดับพระยา และแสน ซึ่งเป็นหัวหน้าชุมชนในละแวกนั้น
ผู้สร้าง ไม่ปรากฏหลักฐาน
การกำหนดอายุ ข้อความจารึกบรรทัดที่ ๔ ระบุ จ.ศ. ๗๑๒ คือ พ.ศ. ๑๘๙๓ ตรงกับปีที่พระเจ้าอู่ทองทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา และก่อนพระเจ้าฟ้างุ้มครองเมืองหลวงพระบาง (พ.ศ. ๑๘๙๖) ถึง ๓ ปี ถ้าศักราชที่ปรากฏในจารึกนี้ถูกต้อง จารึกหลักนี้จะเป็นจารึกอักษรไทยน้อยที่มีอายุเก่าที่สุดที่พบขณะนี้ และเป็นรูปแบบตัวอักษรไทยน้อยที่ได้พัฒนาไปแล้ว คือมีรูปแบบเฉพาะตัวห่างจากอักษรไทยสุโขทัยสมัยพระเจ้าลิไท ที่ร่วมสมัยเดียวกัน จากการศึกษารูปแบบของตัวอักษรในศิลาจารึกพระธาตุร้างบ้านแร่นี้ น่าจะต้องทบทวนทฤษฎีที่ว่าอักษรไทยน้อยได้แบบอย่างไปจากตัวอักษรไทยสกุลพ่อขุนรามคำแหง ถ้าปรากฏหลักฐานอื่นๆ สนับสนุนอีกส่วนหนึ่ง
ข้อมูลอ้างอิง เรียบเรียงข้อมูลโดย : นวพรรณ ภัทรมูล, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., ๒๕๔๙, จาก :
ธวัช ปุณโณทก, “จารึกพระธาตุร้างบ้านแร่,” ใน ศิลาจารึกอีสานสมัยไทย-ลาว : ศึกษาทางด้านอักขรวิทยาและประวัติศาสตร์อีสาน (กรุงเทพฯ : คุณพินอักษรกิจ, ๒๕๓๐), ๒๒๕-๒๒๗.
ภาพประกอบ ภาพสำเนาจารึกจาก : ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๔๕ (เลขทะเบียน CD; INS-TH-14, ไฟล์; Sn_0400_c)
--------------------
- ສີລາຈາຣືກອັກສອນລາວທີ່ພົບຢຸ່ນອກປະເທດລາວ ທີ່ເກົ່າແກ່ທີ່ສຸດ ຄື ຈາຣືກພະທາດຮ້າງບ້ານແຮ່ ສ້າງປີ ຈສ. 712(ພສ. 1893, ຄສ. 1350) ສີລາຈາຣືກຫຼັກນີ້ ສ້າງປີດຽວກັນກັບພະເຈົ້າຣາມາທີ 1 (ອູ່ທອງ) ສະຖາປານາອະນຸທະຍາ, ຫຼັງພະທັມມະຣາຊາທີ 1 (ພຍາລິໄທ) ຄອງຣາດ ໃນສຸໂຂໄທຍ໌ 3 ປີ (ພສ. 1890-ຄສ. 1347) ແລະກ່ອນພຣະເຈົ້າເລີດລ້າທໍລະນີຟ້າງຸ່ມມະຫາຣາດທ້ອນໂຮມ ອານາຈັກລ້ານຊ້າງ ແລະສະຖາປານານະຄອນຊຽງທອງ ຂຶ້ນຄອງຣາຊໃນປີ ຄສ. 1353.
- ສີຈາຣືກນີ້ກຳນົດເປັນ "ສີລາຈາຣືກພະທາດຮ້າງບ້ານແຮ່" ເຊິ່ງທາງໄທຍ໌ກຳນົດຊື່ວ່າ "ອັກສອນໄທຍ໌ນ້ອຍ" ສີລາຈາຣືກນັ້ນກຳນົດວ່າ "ສີລາຈາຣືກອີສານສະໄໝໄທຍ໌-ລາວ"; ສີລາຈາຣືກນີ້ມີສະພາບຊຳລຸດເລັກນ້ອຍ ເນື້ອໃນທີ່ຈາຣືກໂດຍສັງເຂບ ກ່າວເຖິງການບໍຣິຈາກທີ່ດິນໃຫ້ແກ່ວັດຂອງເຈົ້ານາຍລະດັບພະຍາ ແລະແສນ..."
- ທວັດ ປຸນໂນທົກໃຫ້ຄວາມສົນໃຈ ໃຫ້ທັດສະນະຕໍ່ຈາຣືກນີ້ວ່າ "จารึกหลักนี้จะเป็นจารึกอักษรไทยน้อยที่มีอายุเก่าที่สุดที่พบขณะนี้ และเป็นรูปแบบตัวอักษรไทยน้อยที่ได้พัฒนาไปแล้ว คือมีรูปแบบเฉพาะตัวห่างจากอักษรไทยสุโขทัยสมัยพระเจ้าลิไท ที่ร่วมสมัยเดียวกัน จากการศึกษารูปแบบของตัวอักษรในศิลาจารึกพระธาตุร้างบ้านแร่นี้ น่าจะต้องทบทวนทฤษฎีที่ว่าอักษรไทยน้อยได้แบบอย่างไปจากตัวอักษรไทยสกุลพ่อขุนรามคำแหง ถ้าปรากฏหลักฐานอื่นๆ สนับสนุนอีกส่วนหนึ่ง" ອ້າງໃນ " นวพรรณ ภัทรมูล, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย, ศมส., ๒๕๔๙"